Lifestyle

หลักการเลือกซื้อรถมือสองจากเต้นท์รถ

Pinterest LinkedIn Tumblr

ปัจจจุบันนั้น การหา รถดีๆสักคันนึงได้นั้น เราไปจำเป็นต้องซื้อรถมือหนึ่งเสมอไป เพื่อการประหยัดและการใช้งานได้อย่างคุ้มราคา เราขอแนะนำ รถมือสอง ซึ่งหากท่านมีความรู้ในการเลือกก็ย่อมได้เปรียบในการซื้อขายมากกว่าอย่างแน่นอนครับ แต่ในบทความนี้ก็จะอยากแนะนำเกี่ยวกับ หลักการเลือกซื้อรถมือสองจากเต้นท์รถเพื่อเติมให้กับท่านผู้อ่านด้วยเช่นกันครับ เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา เราไปชมกันดีกว่าครับ

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ “รถมือสอง” และ “เต้นท์รถ”

รถมือสอง เป็นรถที่ผ่านการเป็นเจ้าของมาแล้วมากว่า 1 ครั้ง รถมือสองมีจำหน่ายทั่วไปตาม เต๊นท์รถมือสอง บริษัทรถเช่า แฟรนไซด์ของตัวแทนจำหน่ายรถใหม่ ผู้ขายมักจะมีการรับประกันให้เพิ่มเติมในบางส่วน รวมไปถึงบริการซ่อมบำรุงและอะไหล่ สำหรับการขายรถโดยเจ้าของรถเอง เรียกว่า “รถบ้าน” ซึ่งต่อมาผู้ขายเต๊นท์รถมักจะใช้คำว่า “รถบ้าน” แทนรถที่ผ่านการใช้งานเพียงเจ้าของเดียว

เต้นท์รถ คือ สถานที่หรือร้านสำหรับการซื้อขายผ่านตัวแทน หรือผู้ประกอบการธุรกิจรถยนต์ (เจ้าของเต็นท์) ซึ่งเจ้าของเต็นท์จะรับซื้อรถมาจากเจ้าของรถ แล้วจึงนำมาขายต่อที่เต็นท์รถอีกทีนึง โดยมีสถานที่ซื้อขายที่เป็นหลักแหล่ง มีรถมือสองให้เลือกหลากหลาย ซึ่งก็ต้องดูให้ดีและเปรียบเทียบอย่างเหมาะสมก่อนตัดสินใจครับ

สิ่งที่ต้องรู้ก่อนซื้อรถมือสอง

  • ประวัติรถมือสองที่เราสนใจ ก่อนที่เราจะเลือกซื้อรถสักคัน การหาข้อมูลของรุ่นรถก็มีความจำเป็น เพราะรถบางรุ่นก็มีปัญหาเยอะเสียเหลือเกิน แต่พอไม่ได้หาข้อมูลมาก่อนก็จะเกิดความเข้าใจผิดได้ง่ายๆ ว่าเกิดจากการใช้งานของเจ้าของรถคนก่อน อย่างนี้ไม่ถูกต้อง ดังนั้นการเช็กประวัติรถมือสองจึงเป็นเรื่องสำคัญมากๆ
  • สภาพรถยนต์ แม้ว่ารถบางคันจะระบุเข็มไมล์มาแล้วว่าวิ่งไปไกลเท่าไหร่ แต่บางครั้งระยะทางก็ดูเหมือนไม่ค่อยสัมพันธ์กับปีของรถยนต์ที่ซื้อมาเท่าไหร่ อย่าได้วางใจ เพราะอาการแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับรถยนต์ที่มีการตั้งเข็มไมล์ใหม่เพื่อให้สามารถขายได้ราคาดีขึ้น เนื่องจากวิ่งระยะทางน้อย นอกจากเข็มไมล์แล้วควรตรวจสอบเบาะที่นั่ง และพวงมาลัยว่ามีสภาพการใช้งานมานานขนาดไหน เช็กขอบประตู และดอกยางว่าสึกหมดหรือยัง เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เล่านี้เป็นสัญญาณของรถที่ใช้งานมาเยอะพอสมควร
  • สภาพของห้องเครื่อง การเช็กสภาพห้องเครื่องเป็นการตรวจเช็กว่าภายในห้องเครื่องเริ่มมีสนิมจับ มีรอยบุ๋มลึก หรือร่องรอยเสียหายหรือไม่ โดยไม่ใช่เช็กแค่อุปกรณ์ที่ทำจากเหล็กเท่านั้น แต่ควรตรวจสอบท่อ และสายพานว่ามีรอยฉีกขาดหรือไม่ ตรวจสอบว่าแบตเตอรี่มีน้ำรั่วซึมหรือเปล่า
  • สภาพของเครื่องยนต์ เป็นการตรวจเช็กสภาพของเครื่องยนต์ว่ายังมีการใช้งานที่ดีอยู่หรือเปล่า โดยการลองสตาร์ทเครื่องว่าติดง่ายหรือไม่ เครื่องยนต์เดินสะดวกไม่มีอาการสะดุดหรือเปล่า และลองฟังเสียงเครื่องยนต์ขณะเร่งด้วยความแรงสูงสุด และต่ำสุดว่ามีเสียงผิดปกติหรือไม่ เช็กการรั่วของอุปกรณ์ภายในห้องเครื่อง โดยการตรวจเช็กนี้ควรมีผู้เชี่ยวชาญเรื่องรถยนต์ไปด้วย เพื่อที่จะเห็นรายละเอียดของการใช้งานรถยนต์ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

หากรถเกิดสนิมควรดูแลอย่างไร?

วิธีกำจัดคราบสนิมที่เกิดขึ้นบริเวณพื้นผิวในส่วนต่างๆ ของรถยนต์ มีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

  1. นำผ้าเช็ดทำความสะอาดบริเวณที่เกิดสนิม
  2. นำกระดาษขัดคราบบริเวณที่มีสนิม
  3. หลังจากขัดเสร็จเรียบร้อยให้ผ้าเช็ดคราบที่ขัดออกให้หมด หลีกเลี่ยงการใช้น้ำในการเช็ด
  4. ฉีดพ่นสเปรย์กันสนิมเอาไว้เพื่อป้องกันการเกิดคราบเพิ่มเติม

ปัญหาสนิมรถยนต์นั้น เป็นเรื่องที่ผู้ใช้รถทั้งหลายจะต้องให้ความใส่ใจเป็นลำดับต้นๆ ในการดูแลรักษารถ นอกจากจะขัดสีรถให้เหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลาแล้ว ก็อย่าลืมตรวจเช็คบริเวณต่างๆ ของตัวรถด้วย ไม่ว่าจะเป็นฝากระโปรง, หลังคา, กันชนหรือบริเวณใต้ท้องรถ ว่ามีบริเวณไหนที่เกิดสนิมหรือไม่ เพื่อให้คุณสามารถแก้ไขปัญหาคราบสนิมต่างๆ นั้นได้ทันเวลา ความเสียก็จะถูกจำกัดไว้ได้ครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ หลักการเลือกซื้อรถมือสองจากเต้นท์รถที่เราได้นำมาฝากทุกๆ ท่านกันในบทความข้างต้นนี้ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์มือสองไว้ใช้งานกันสักคันครับ