Lifestyle

“สายมู” มีที่มาจากอะไร

Pinterest LinkedIn Tumblr

คำว่า “สายมู” เป็นชื่อเรียกของชุมชนคนที่เชื่อในเรื่องของเครื่องราง สิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเชื่อในสิ่งที่เหนือธรรมชาติ วิทยาศาสาตร์พิสูจน์ไม่ได้ มักจะถูกใช้กับบุคคลที่เคร่งหรือเชื่อในการใช้วัตถุพิธีเหล่านี้ในการช่วยในการใช้ขีวิตด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเงินทอง หน้าที่การงาน หรือแม้กระทั่งเรื่องความรัก ซึ่งความเชื่อเหล่านี้กำลังเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน เพราะการที่จะประสบความสำเร็จในด้านใดด้านหนึ่งแล้วนอกจากพลังกาย เราก็จะต้องมีสิ่งเหนี่ยวนำจิตใจเพื่อที่จะฝันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ด้วยเช่นกันครับ แล้วที่มาของคำว่า “สายมู” นี้มาจากไหน มีที่ไปที่มาอย่างไร? บทความนี้จะพาทุกๆ ท่านไปหาคำตอบกันครับ

 “สายมู” หรือ “มูเตลู” คืออะไร? มีที่มาอย่างไร ?

คำว่า “สายมู หรือ ที่เราเรียกกันว่า มูเตลู” นั้นมาจากชื่อของภาพยนตร์ของอินโดนีเซีย โดยมีชื่อเรื่องว่า “มูเตลู ศึกไสยศาสตร์”  ซึ่งเนื้อหาของภาพยนตร์เป็นเรื่องเกี่ยวกับหญิงสาว 2 คนที่ใช้มนต์ดำต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงชายหนุ่มที่ตนหลงรัก มีการท่องคาถาเริ่มต้นบทด้วยคำว่า “มูเตลูทุกครั้ง” ก่อนร่ายมนต์ นั้นเอง จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกคนที่ฝักใฝ่ไสยเวทย์นี้ว่า “สายมูเตลู” 

ดังนั้น สายมูเตลู ก็คือ ชื่อเรียกของผู้คนที่มีความเชื่อในเรื่องพลังพิเศษ ศักดิ์สิทธิ์เหนือธรรมชาติ ฝักใฝ่หาเครื่องรางของคลังหรือทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อสนองความต้องการของตนให้สำเร็จลุล่วง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการเงิน หน้าที่การงานหรือแม้กระทั้งการสมหวังในความรัก เป็นต้น

ต่างประเทศมีสายมูแบบในไทยมั้ย ?

ไม่ว่าจะทั้งไทยและต่างประเทศก็ต่างมีวัฒนธรรมความเชื่อที่แตกต่างกันออกไป อาทิเช่น ความเชื่อในเรื่องของการเรียกทรัพย์อย่างนักกวักของไทย ก็สอดคล้องกับแมวกวัดของญี่ปุ่น, การป้องกันภัยร้ายและสิ่งที่มองไม่เห็นอย่างกิเลนของจีนก็สอดคล้องกับ Dream catcher ของชาวตะวันตก เป็นต้น เพราะฉะนั้นแล้ว สายมูที่อยู่ทั่วโลกอย่างแน่นอนครับ

4 เครื่องรางที่สายมูต้องมีพกไว้เสริมดวงความรัก

1. ด้ายแดง เป็นวัตถุมงคลที่เป็นความเชื่อดั้งเดิมแถบตะวันออกอย่างญี่ปุ่น จีนและฮ่องกง ที่เชื่อกันว่าผู้ที่เป็นเนื้อคู่กันจะมีด้ายแดงที่มองไม่เห็น ผูกอยู่ที่นิ้วก้อยของทั้งคู่ ด้ายแดงนี้จะนำพาให้มาเจอกัน จึงทำให้ด้ายแดงเป็นสัญลักษณ์หรือเครื่องรางที่เสริมในเรื่องความรัก ที่เป็นที่นิยมก็คือด้ายแดงจากวัด หวังต้าเซียน ฮ่องกง ซึ่งเชื่อกันว่าถ้าคนที่สวมใส่เป็นคนโสดก็จะได้พบเจอกับคนรัก ส่วนคนมีคู่อยู่แล้ว ความรักก็จะมั่นคง

2. โรสควอตซ์ หินสีชมพูอ่อน เนื้อใส เป็นหินแห่งเทพวีนัส สื่อถึงพลังของเพศแม่ เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความรักและการให้อภัย เมื่อนำมาสวมใส่จะดึงดูดความรัก เสริมเสน่ห์ สร้างมิตรภาพที่ดีๆ ให้กับเรา ทั้งยังช่วยให้เจ้านายรักใคร่เอ็นดู นอกจากนี้โรสควอตซ์ยังมีพลังในการขจัดความโกรธเกลียด รักษาแผลใจ และช่วยให้รู้สึกรักตัวเองมากขึ้นอีกด้วย

3. มูนสโตน เป็นเครื่องรางที่ทางฝั่งตะวันตกเชื่อว่าพกพาติดตัวไว้แล้วจะช่วยนำโชคเรื่องความรัก อีกทั้งช่วยเสริมดวงชะตาชีวิตให้มั่นคง สุขสงบ และช่วยแผ่พลังงานที่ดีมาสู่ตัวเราด้วย ตามตำนานของชาวอินเดียเชื่อกันว่า ผู้ใดได้ครอบครองอัญมณีมูนสโตน ผู้นั้นจะประสบความสำเร็จสูงสุดในเรื่องของความรัก และความศรัทธา นอกจากนี้ถ้าเกิดว่ามีปัญหาความรัก ก็เชื่อกันว่ามูนสโตนก็จะช่วยซับความเจ็บปวดและหม่นหมองไว้และจะค่อยๆ ฟื้นฟูจิตใจของสาวๆ ให้ดีขึ้นด้วย

4. คันไซต์ คือ หินสีม่วงอมชมพูที่เชื่อกันว่าจะช่วยกระตุ้นพลังงานด้านบวก และเสริมความมั่นใจให้กับคนใส่ นั่นทำให้ถ้ากำลังแอบชอบใครอยู่แต่ไม่กล้าบอก หินนี้จะช่วยลดความกดดันและกล้าบอกความรู้สึกออกไป 

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับที่มาของ สายมู และแถมด้วยเครื่องที่จะช่วยเสริมดวงเรื่องความรัก ที่เรานำมาฝากทุกๆ ท่านในวันนี้ เราหวังว่าจะช่วยให้ทุกท่านได้รู้จักกับเรื่องราวเหล่านี้มากขึ้นนะครับ